เช็กปัญหาผิวของคนวัย 30+ ที่ต้องให้หัตถการช่วย ริ้วรอย หน้าโทรม ร่องแก้ม
“ปัญหาผิว” ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือริ้วรอยชัดเจนก็สร้างความกังวลใจให้กับเราได้เสมอ แม้ว่าการเลือกใช้สกินแคร์จะช่วยจัดการกับปัญหาผิวด้านต่าง ๆ ได้ แต่ปัญหาผิวบางอย่าง ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้สกินแคร์เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะกับผู้ที่มีอายุ 30+ ส่วนใหญ่ ที่เริ่มพบเจอปัญหาริ้วรอยแห่งวัยอันเนื่องมาจากการผลิตคอลลาเจนในร่างกายลดลง การทำหัตถการจึงเข้ามาเป็นทางเลือกสำคัญ ที่จะช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ได้อย่างที่ต้องการ บทความนี้เราจึงขอชวนทุกคนมาลองเช็คกันว่า ปัญหาผิวแบบไหน ถ้าใช้สกินแคร์แล้วไม่ดีขึ้น ก็ถึงเวลาที่ต้องพึ่งหัตถการแล้ว
เช็กลิสต์ปัญหาผิว ที่ต้องให้หัตถการช่วย
1. ริ้วรอย เส้นขีดบนผิวที่เห็นได้ชัด
จริงอยู่ที่ในปัจจุบันมีสกินแคร์ Anti-Aging ให้เลือกใช้มากมาย แต่ถ้าหากไม่ได้ดูแลผิวให้ดีตั้งแต่เนิ่น ๆ เพิ่งมาเริ่มใช้หลังจากมีริ้วรอยเกิดขึ้นแล้ว คงต้องใช้เวลานานที่ทำจะทำให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนได้เหมือนเดิม เพราะสกินแคร์ไม่อาจแก้ปัญหาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่ช่วยประคับประคองผิว ไม่ให้ริ้วรอยแผ่ขยายวงกว้าง หรือเกิดเส้นริ้วที่ลึกไปมากกว่าเดิม
2. ร่องแก้ม ผิวหย่อนคล้อย
ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เป็นผลมาจากการสูญเสียคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น แก้มจึงดูห้อย ส่งผลให้หน้าดูแก่กว่าวัย ซึ่งมักจะเกิดขึ้นตามช่วงวัย ที่อายุมากขึ้น
3. หน้าโทรม ไม่สดใส
ปัญหาหน้าโทรม ไม่สดใส ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทันที แต่เป็นปัญหาที่ถูกสะสมมาเป็นเวลานาน จากการที่ไม่ได้ดูแลตัวเองให้ดีเท่าที่ควร บวกกับสภาพแวดล้อมภายนอกที่เต็มไปด้วยมลภาวะ ฝุ่นควัน แสงแดด ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพ
ดังนั้นถ้าสาว ๆ ลองเช็กแล้ว พบว่าใบหน้าของเราเริ่มมีปัญหาผิวเหล่านี้ นั่นแปลว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องใช้หัตถการเข้ามาช่วย
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำหัตถการ
เมื่อรู้แล้วว่าปัญหาผิวที่เกิดขึ้น ไม่สามารถพึ่งพาเฉพาะสกินแคร์เพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป จนต้องหันมาให้ความสนใจกับการทำหัตถการ ดังนั้นลองมาดูเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจเลือกทำหัตถการต่าง ๆ กันว่ามีอะไรบ้าง
1. ศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ และคลินิกที่ให้บริการ
การทำหัตถการในปัจจุบันมีให้เลือกหลายรูปแบบ แต่ละอย่างก็มีจุดเด่น มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป เราจึงควรศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำหัตถการ ว่าคืออะไร ใช้วิธีแบบไหน ตอบโจทย์ปัญหาผิวของเราหรือไม่ เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลในการปรึกษาแพทย์ รวมถึงอย่าลืมเช็กว่าคลินิกที่ให้บริการ มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนด้วย
2. ประเมินสุขภาพร่างกายของตัวเอง
การทำหัตถการไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป เพราะหัตถการบางอย่าง อาจมีตัวยาหรือมีกระบวนการขั้นตอนที่ไม่เหมาะกับสภาพร่างกายของแต่ละคน เช่น คนที่มีโรคประจำตัว ที่ต้องทานยาบางชนิดเป็นประจำ กำลังตั้งครรภ์ เป็นต้น ดังนั้นควรต้องตระหนักถึงสภาพร่างกายของตัวเอง และควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนเข้ารับบริการ
3. ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละคน
เชื่อว่าทุกคนย่อมคาดหวังในผลลัพธ์ แต่ต้องยอมรับว่าพื้นฐานผิวของแต่ละคนไม่เท่ากัน เช่น บางคนไม่ได้มีปัญหาผิวหนักหนาสาหัส อีกทั้งร่างกายสามารถตอบสนองต่อการรักษาได้ดี ก็ย่อมเห็นผลได้ไวกว่า ผู้ที่มีปัญหาผิวเยอะ เป็นต้น
แนะนำ 2 โปรแกรมหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า ปัญหาริ้วรอย ร่องแก้ม หน้าโทรม เป็นเป็นปัญหาผิวที่ต้องพึ่งการทำหัตถการ เพื่อที่จะได้แก้ไขได้อย่างตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นเราก็เลยอยากจะมาแนะนำ หัตถการ 2 ประเภทที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ นั่นก็คือ โปรแกรมฟื้นฟูผิวด้วย กูริ PCL 21% และ การร้อยไหมโครงตาข่าย เพื่อแก้ปัญหาผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย
กูริ PCL 21%
กูริ PCL 21% คือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการ Inflammation และสร้างไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ ทำให้มีความยืดหยุ่นขึ้น ดูสุขภาพดี อ่อนเยาว์ โดยมีส่วนประกอบของสาร PCL ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาปรับสภาพให้อยู่ในรูปแบบของเหลว ทำให้สามารถกระจายตัวเข้าสู่ผิวได้ดี จึงไม่จำเป็นต้องทำหลายจุด และสามารถอยู่ในร่างกายได้ระยะหนึ่งจากนั้นจะสลายได้เองโดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ทิ้งสารตกค้างในผิว จึงสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดการอุดตันในเส้นเลือดได้อีกด้วย เมื่อทำแล้ว จะเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์และผลลัพธ์อยู่ได้นานสูงสุด 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ไหมโครงตาข่าย
ไหมโครงตาข่าย อีกหนึ่งนวัตกรรมด้านการร้อยไหมที่ช่วยยกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าที่ไม่ได้รูป เหนียงหรือคาง 2 ชั้น ปัญหาร่องแก้ม ชั้นตาตก การร้อยไหมโครงตาข่ายจะช่วยให้ผิวบริเวณที่ร้อยไหมดูเต่งตึงขึ้น ทั้งยังช่วยปรับรูปหน้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ซึ่งมีจุดเด่นต่างจากการร้อยไหมทั่วไป คือ ไหมโครงตาข่าย ที่ถูกออกแบบให้มีความแข็งแรง ยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดี ทำให้ผิวดูยกกระชับขึ้นหลังทำ บวมน้อย อีกทั้งโครงตาข่ายที่ห่อหุ้มเส้นไหม ยังช่วยให้เนื้อเยื่อใหม่ที่เกิดผ่านรูโครงตาข่าย ไหมจึงสามารถยึดเกาะกับผิวได้ดีขึ้น จึงมีส่วนในการช่วยยกกระชับใบหน้านั่นเอง
เชื่อว่าหลังจากที่คุณได้ลองเช็คสภาพผิวของตัวเองกันแล้ว คงมีคำตอบในใจกันแล้วว่าถึงเวลาที่จะต้องให้คุณหมอช่วยทำหัตถการแก้ไขได้แล้วหรือยัง? ถ้าหากต้องใช้หัตถการช่วยก็ควรเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะหากยิ่งได้รับการแก้ปัญหาผิวเร็วเท่าไหร่ ก็จะสามารถฟื้นฟูสภาพผิวได้เร็วขึ้นเท่านั้น
บทความอื่นๆที่ใกล้เคียง
สารบัญเนื้อหา
“ปัญหาผิว” ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือริ้วรอยชัดเจนก็สร้างความกังวลใจให้กับเราได้เสมอ แม้ว่าการเลือกใช้สกินแคร์จะช่วยจัดการกับปัญหาผิวด้านต่าง ๆ ได้ แต่ปัญหาผิวบางอย่าง ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้สกินแคร์เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะกับผู้ที่มีอายุ 30+ ส่วนใหญ่ ที่เริ่มพบเจอปัญหาริ้วรอยแห่งวัยอันเนื่องมาจากการผลิตคอลลาเจนในร่างกายลดลง การทำหัตถการจึงเข้ามาเป็นทางเลือกสำคัญ ที่จะช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ได้อย่างที่ต้องการ บทความนี้เราจึงขอชวนทุกคนมาลองเช็คกันว่า ปัญหาผิวแบบไหน ถ้าใช้สกินแคร์แล้วไม่ดีขึ้น ก็ถึงเวลาที่ต้องพึ่งหัตถการแล้ว
เช็กลิสต์ปัญหาผิว ที่ต้องให้หัตถการช่วย
1. ริ้วรอย เส้นขีดบนผิวที่เห็นได้ชัด
จริงอยู่ที่ในปัจจุบันมีสกินแคร์ Anti-Aging ให้เลือกใช้มากมาย แต่ถ้าหากไม่ได้ดูแลผิวให้ดีตั้งแต่เนิ่น ๆ เพิ่งมาเริ่มใช้หลังจากมีริ้วรอยเกิดขึ้นแล้ว คงต้องใช้เวลานานที่ทำจะทำให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนได้เหมือนเดิม เพราะสกินแคร์ไม่อาจแก้ปัญหาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่ช่วยประคับประคองผิว ไม่ให้ริ้วรอยแผ่ขยายวงกว้าง หรือเกิดเส้นริ้วที่ลึกไปมากกว่าเดิม
2. ร่องแก้ม ผิวหย่อนคล้อย
ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เป็นผลมาจากการสูญเสียคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น แก้มจึงดูห้อย ส่งผลให้หน้าดูแก่กว่าวัย ซึ่งมักจะเกิดขึ้นตามช่วงวัย ที่อายุมากขึ้น
3. หน้าโทรม ไม่สดใส
ปัญหาหน้าโทรม ไม่สดใส ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทันที แต่เป็นปัญหาที่ถูกสะสมมาเป็นเวลานาน จากการที่ไม่ได้ดูแลตัวเองให้ดีเท่าที่ควร บวกกับสภาพแวดล้อมภายนอกที่เต็มไปด้วยมลภาวะ ฝุ่นควัน แสงแดด ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพ
ดังนั้นถ้าสาว ๆ ลองเช็กแล้ว พบว่าใบหน้าของเราเริ่มมีปัญหาผิวเหล่านี้ นั่นแปลว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องใช้หัตถการเข้ามาช่วย
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำหัตถการ
เมื่อรู้แล้วว่าปัญหาผิวที่เกิดขึ้น ไม่สามารถพึ่งพาเฉพาะสกินแคร์เพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป จนต้องหันมาให้ความสนใจกับการทำหัตถการ ดังนั้นลองมาดูเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจเลือกทำหัตถการต่าง ๆ กันว่ามีอะไรบ้าง
1. ศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ และคลินิกที่ให้บริการ
การทำหัตถการในปัจจุบันมีให้เลือกหลายรูปแบบ แต่ละอย่างก็มีจุดเด่น มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป เราจึงควรศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำหัตถการ ว่าคืออะไร ใช้วิธีแบบไหน ตอบโจทย์ปัญหาผิวของเราหรือไม่ เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลในการปรึกษาแพทย์ รวมถึงอย่าลืมเช็กว่าคลินิกที่ให้บริการ มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนด้วย
2. ประเมินสุขภาพร่างกายของตัวเอง
การทำหัตถการไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป เพราะหัตถการบางอย่าง อาจมีตัวยาหรือมีกระบวนการขั้นตอนที่ไม่เหมาะกับสภาพร่างกายของแต่ละคน เช่น คนที่มีโรคประจำตัว ที่ต้องทานยาบางชนิดเป็นประจำ กำลังตั้งครรภ์ เป็นต้น ดังนั้นควรต้องตระหนักถึงสภาพร่างกายของตัวเอง และควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนเข้ารับบริการ
3. ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละคน
เชื่อว่าทุกคนย่อมคาดหวังในผลลัพธ์ แต่ต้องยอมรับว่าพื้นฐานผิวของแต่ละคนไม่เท่ากัน เช่น บางคนไม่ได้มีปัญหาผิวหนักหนาสาหัส อีกทั้งร่างกายสามารถตอบสนองต่อการรักษาได้ดี ก็ย่อมเห็นผลได้ไวกว่า ผู้ที่มีปัญหาผิวเยอะ เป็นต้น
แนะนำ 2 โปรแกรมหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า ปัญหาริ้วรอย ร่องแก้ม หน้าโทรม เป็นเป็นปัญหาผิวที่ต้องพึ่งการทำหัตถการ เพื่อที่จะได้แก้ไขได้อย่างตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นเราก็เลยอยากจะมาแนะนำ หัตถการ 2 ประเภทที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ นั่นก็คือ โปรแกรมฟื้นฟูผิวด้วย กูริ PCL 21% และ การร้อยไหมโครงตาข่าย เพื่อแก้ปัญหาผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย
กูริ PCL 21%
กูริ PCL 21% คือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการ Inflammation และสร้างไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ ทำให้มีความยืดหยุ่นขึ้น ดูสุขภาพดี อ่อนเยาว์ โดยมีส่วนประกอบของสาร PCL ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาปรับสภาพให้อยู่ในรูปแบบของเหลว ทำให้สามารถกระจายตัวเข้าสู่ผิวได้ดี จึงไม่จำเป็นต้องทำหลายจุด และสามารถอยู่ในร่างกายได้ระยะหนึ่งจากนั้นจะสลายได้เองโดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ทิ้งสารตกค้างในผิว จึงสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดการอุดตันในเส้นเลือดได้อีกด้วย เมื่อทำแล้ว จะเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์และผลลัพธ์อยู่ได้นานสูงสุด 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ไหมโครงตาข่าย
ไหมโครงตาข่าย อีกหนึ่งนวัตกรรมด้านการร้อยไหมที่ช่วยยกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าที่ไม่ได้รูป เหนียงหรือคาง 2 ชั้น ปัญหาร่องแก้ม ชั้นตาตก การร้อยไหมโครงตาข่ายจะช่วยให้ผิวบริเวณที่ร้อยไหมดูเต่งตึงขึ้น ทั้งยังช่วยปรับรูปหน้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ซึ่งมีจุดเด่นต่างจากการร้อยไหมทั่วไป คือ ไหมโครงตาข่าย ที่ถูกออกแบบให้มีความแข็งแรง ยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดี ทำให้ผิวดูยกกระชับขึ้นหลังทำ บวมน้อย อีกทั้งโครงตาข่ายที่ห่อหุ้มเส้นไหม ยังช่วยให้เนื้อเยื่อใหม่ที่เกิดผ่านรูโครงตาข่าย ไหมจึงสามารถยึดเกาะกับผิวได้ดีขึ้น จึงมีส่วนในการช่วยยกกระชับใบหน้านั่นเอง
เชื่อว่าหลังจากที่คุณได้ลองเช็คสภาพผิวของตัวเองกันแล้ว คงมีคำตอบในใจกันแล้วว่าถึงเวลาที่จะต้องให้คุณหมอช่วยทำหัตถการแก้ไขได้แล้วหรือยัง? ถ้าหากต้องใช้หัตถการช่วยก็ควรเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะหากยิ่งได้รับการแก้ปัญหาผิวเร็วเท่าไหร่ ก็จะสามารถฟื้นฟูสภาพผิวได้เร็วขึ้นเท่านั้น