หน้าโทรม หน้าหมอง หน้าแก่ก่อนวัย เกิดจากอะไร ต้องดูแลผิวพรรณอย่างไร
ปัญหาหน้าโทรม หน้าหมอง หน้าแก่ก่อนวัย สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนหากเราดูแลตัวเองไม่ดีพอ เพราะปัญหาเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ จะเป็นในทันที แต่เกิดจากการปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน ไม่ได้รับการดูแลและแก้ไขอย่างเหมาะสม ลองไปดูกันสิว่าสาเหตุที่ทำให้หน้าหมอง หน้าโทรม จนดูแก่ก่อนวัยนั้นมีอะไรบ้าง และจะทำอย่างไรให้ผิวกลับมาสดใส สุขภาพดีได้อีกครั้ง
สาเหตุที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ หน้าโทรม
ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เคยชินหลายอย่าง สภาพอากาศ หรือความเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย ล้วนเป็นสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดหน้าหมอง โทรม ผิวไม่สดใสได้ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อย และหลายคนมักมองข้าม มีดังนี้
แสงแดด
รังสี UVA และ UVB ในแสงแดด คือตัวการสำคัญของปัญหาหน้าโทรม หมองคล้ำ เพราะส่งผลต่อการผลิตเม็ดสีเมลานินที่มากขึ้น
มลภาวะทางอากาศ
ฝุ่นควันมากมายในอากาศ ที่เราต้องเผชิญกันเป็นประจำอยู่ทุกวัน ทำให้เกราะป้องกันผิวถูกทำลาย และเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา
ดื่มน้ำน้อย
ผิวที่ได้รับความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ จะมีความแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยขึ้นได้ง่าย ส่งผลให้หน้าแก่ก่อนวัยได้
นอนดึก อดนอนบ่อย
หากร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เหมาะสม กระบวนการฟื้นฟูผิวก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ นอกจากผิวจะไม่เปล่งปลั่งแล้ว ใต้ตาก็ดูหมองคล้ำอีกด้วย
อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้ลดลง จากเดิมที่ผิวพรรณเคยเต่งตึง ก็เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา และยังส่งผลต่อกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูหมอง หน้าโทรม
วิธีแก้ปัญหา เปลี่ยนหน้าหมอง ให้สดใส
1. ทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ
ทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดอันเป็นสาเหตุของการเกิด ฝ้า กระ หน้าหมองคล้ำ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ มีค่า SPF และ PA เพียงพอ เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เช่น ถ้าชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง มีเหงื่อออกเยอะ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง มี PA++++ พร้อมด้วยคุณสมบัติกันน้ำ และหมั่นทาซ้ำหากต้องเผชิญแสงแดดเป็นเวลานาน แต่ถ้าใครที่ไม่ค่อยได้ออกไปโดนแดด อยู่ในห้องแอร์ซะส่วนใหญ่ ก็ต้องไม่ลืมที่จะทาครีมกันแดดด้วยเช่นกัน แต่อาจมองหาส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวเพิ่มเติม อย่างการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน ซึ่งเป็นที่มาของริ้วรอย ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย เป็นต้น
2. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
บำรุงผิวให้ได้รับความชุ่มชื้นที่เพียงพอ ทั้งจากภายนอกและภายใน ทำได้โดยการเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยเติมเต็มและล็อคความชุ่มชื้นในผิว มีคุณสมบัติเสริมเกราะป้องกันผิว ไม่ทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย เมื่อผิวภายนอกได้รับความชุ่มชื้นแล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน ด้วยการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน
3. ผลัดเซลล์ผิว
การทำความสะอาดผิวด้วยการล้างหน้า ไม่สามารถขจัดสิ่งสกปรกตกค้างหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปได้ทุกครั้ง หากปล่อยทิ้งไว้ ก็จะยิ่งทำให้หน้าหมอง หน้าโทรม บำรุงผิวไปเท่าไหร่ก็ไม่เห็นผล เนื่องจากส่วนผสมไม่อาจซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ จึงต้องมีการผลัดเซลล์ผิว เพื่อให้เซลล์ผิวใหม่ได้ขึ้นมาทดแทน และช่วยให้ผิวเปิดรับสารบำรุงได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีให้เลือกหลายวิธี ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร AHA/BHA การ สครับผิว หรือการใช้มาสก์พอกหน้า
4. ปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการทำหัตถการเพื่อปรับสภาพผิว
หากลองทำตามวิธีข้างต้นแล้ว แต่ปัญหาหน้าหมอง หน้าโทรม ยังไม่ดีขึ้นสักที นั่นอาจเป็นไปได้ว่า ผิวของคุณกำลังประสบปัญหาคอลลาเจนในผิวเริ่มเสื่อมสภาพลง และถ้าจะรอให้คอลลาเจนฟื้นตัวกลับมาสู่สภาวะปกตินั้นก็อาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่ไม่ต้องห่วง เพราะเรามีวิธีซ่อมผิวมาแนะนำ เป็นการเพิ่มกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสดใส ดูอ่อนเยาว์ วิธีนั้นก็คือ การทำหัตถการปรับปรุงคุณภาพให้ผิวด้วย กูริ PCL 21%
ข้อดีของกูริ PCL 21%
- สารที่ใช้ใน กูริ เป็นสาร PCL ที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างล้ำลึกต่อเนื่องระยะยาว
- เป็นสาร PCL ที่มีปริมาณ 21% ต่อ 1 cc ในรูปแบบของเหลว ที่ไม่มีการผสม Sterile Water เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวแล้ว สามารถกระจายตัวได้ทั่วหน้า จึงไม่จำเป็นต้องฉีดหลายจุด
- ปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ผิวกระชับ แข็งแรงขึ้น ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก เปลี่ยนผิวที่แห้งกร้านให้ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ สีผิวดูเรียบเนียน มีความกระจ่างใส ไม่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย กล้าเผยผิวได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
บทความอื่นๆที่ใกล้เคียง
สารบัญเนื้อหา
ปัญหาหน้าโทรม หน้าหมอง หน้าแก่ก่อนวัย สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนหากเราดูแลตัวเองไม่ดีพอ เพราะปัญหาเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ จะเป็นในทันที แต่เกิดจากการปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน ไม่ได้รับการดูแลและแก้ไขอย่างเหมาะสม ลองไปดูกันสิว่าสาเหตุที่ทำให้หน้าหมอง หน้าโทรม จนดูแก่ก่อนวัยนั้นมีอะไรบ้าง และจะทำอย่างไรให้ผิวกลับมาสดใส สุขภาพดีได้อีกครั้ง
สาเหตุที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ หน้าโทรม
ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เคยชินหลายอย่าง สภาพอากาศ หรือความเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย ล้วนเป็นสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดหน้าหมอง โทรม ผิวไม่สดใสได้ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อย และหลายคนมักมองข้าม มีดังนี้
แสงแดด
รังสี UVA และ UVB ในแสงแดด คือตัวการสำคัญของปัญหาหน้าโทรม หมองคล้ำ เพราะส่งผลต่อการผลิตเม็ดสีเมลานินที่มากขึ้น
มลภาวะทางอากาศ
ฝุ่นควันมากมายในอากาศ ที่เราต้องเผชิญกันเป็นประจำอยู่ทุกวัน ทำให้เกราะป้องกันผิวถูกทำลาย และเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา
ดื่มน้ำน้อย
ผิวที่ได้รับความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ จะมีความแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยขึ้นได้ง่าย ส่งผลให้หน้าแก่ก่อนวัยได้
นอนดึก อดนอนบ่อย
หากร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เหมาะสม กระบวนการฟื้นฟูผิวก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ นอกจากผิวจะไม่เปล่งปลั่งแล้ว ใต้ตาก็ดูหมองคล้ำอีกด้วย
อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้ลดลง จากเดิมที่ผิวพรรณเคยเต่งตึง ก็เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา และยังส่งผลต่อกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูหมอง หน้าโทรม
วิธีแก้ปัญหา เปลี่ยนหน้าหมอง ให้สดใส
1. ทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ
ทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดอันเป็นสาเหตุของการเกิด ฝ้า กระ หน้าหมองคล้ำ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ มีค่า SPF และ PA เพียงพอ เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เช่น ถ้าชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง มีเหงื่อออกเยอะ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง มี PA++++ พร้อมด้วยคุณสมบัติกันน้ำ และหมั่นทาซ้ำหากต้องเผชิญแสงแดดเป็นเวลานาน แต่ถ้าใครที่ไม่ค่อยได้ออกไปโดนแดด อยู่ในห้องแอร์ซะส่วนใหญ่ ก็ต้องไม่ลืมที่จะทาครีมกันแดดด้วยเช่นกัน แต่อาจมองหาส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวเพิ่มเติม อย่างการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน ซึ่งเป็นที่มาของริ้วรอย ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย เป็นต้น
2. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
บำรุงผิวให้ได้รับความชุ่มชื้นที่เพียงพอ ทั้งจากภายนอกและภายใน ทำได้โดยการเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยเติมเต็มและล็อคความชุ่มชื้นในผิว มีคุณสมบัติเสริมเกราะป้องกันผิว ไม่ทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย เมื่อผิวภายนอกได้รับความชุ่มชื้นแล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน ด้วยการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน
3. ผลัดเซลล์ผิว
การทำความสะอาดผิวด้วยการล้างหน้า ไม่สามารถขจัดสิ่งสกปรกตกค้างหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปได้ทุกครั้ง หากปล่อยทิ้งไว้ ก็จะยิ่งทำให้หน้าหมอง หน้าโทรม บำรุงผิวไปเท่าไหร่ก็ไม่เห็นผล เนื่องจากส่วนผสมไม่อาจซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ จึงต้องมีการผลัดเซลล์ผิว เพื่อให้เซลล์ผิวใหม่ได้ขึ้นมาทดแทน และช่วยให้ผิวเปิดรับสารบำรุงได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีให้เลือกหลายวิธี ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร AHA/BHA การ สครับผิว หรือการใช้มาสก์พอกหน้า
4. ปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการทำหัตถการเพื่อปรับสภาพผิว
หากลองทำตามวิธีข้างต้นแล้ว แต่ปัญหาหน้าหมอง หน้าโทรม ยังไม่ดีขึ้นสักที นั่นอาจเป็นไปได้ว่า ผิวของคุณกำลังประสบปัญหาคอลลาเจนในผิวเริ่มเสื่อมสภาพลง และถ้าจะรอให้คอลลาเจนฟื้นตัวกลับมาสู่สภาวะปกตินั้นก็อาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่ไม่ต้องห่วง เพราะเรามีวิธีซ่อมผิวมาแนะนำ เป็นการเพิ่มกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสดใส ดูอ่อนเยาว์ วิธีนั้นก็คือ การทำหัตถการปรับปรุงคุณภาพให้ผิวด้วย กูริ PCL 21%
ข้อดีของกูริ PCL 21%
- สารที่ใช้ใน กูริ เป็นสาร PCL ที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างล้ำลึกต่อเนื่องระยะยาว
- เป็นสาร PCL ที่มีปริมาณ 21% ต่อ 1 cc ในรูปแบบของเหลว ที่ไม่มีการผสม Sterile Water เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวแล้ว สามารถกระจายตัวได้ทั่วหน้า จึงไม่จำเป็นต้องฉีดหลายจุด
- ปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ผิวกระชับ แข็งแรงขึ้น ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก เปลี่ยนผิวที่แห้งกร้านให้ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ สีผิวดูเรียบเนียน มีความกระจ่างใส ไม่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย กล้าเผยผิวได้อย่างมั่นใจมากขึ้น