อยากผิวขาว หน้าใส คอลลาเจนไม่สลาย ต้องเลี่ยง 5 พฤติกรรมนี้

สาว ๆ มักมองว่าอายุที่มากขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและมีริ้วรอยเพิ่มมากขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิต เป็นอีกปัจจัยที่หนึ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะพฤติกรรมบางอย่างอาจเป็นตัวการสำคัญในการทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น มาดูกันว่าพฤติกรรมไหนในชีวิตประจำวันที่คอยทำลายคอลลาเจนในผิวบ้าง

สัญญาณเตือนของผิวขาดคอลลาเจน

เพราะคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ช่วยพยุงผิวของเราไม่ให้เกิดร่องริ้วรอย ทำให้ผิวของเราดูเต่งตึง ดังนั้นคอลลาเจนจึงเป็นตัวการสำคัญที่ช่วยให้เราดูอ่อนวัย โดยปกติแล้วนั้นร่างกายของเราสามารถผลิตคอลลาเจนเองจนถึงอายุประมาณ 25 ปี หลังจากนั้นร่างกายจะผลิตคอลลาเจนในประมาณน้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้คอลลาเจนใต้ชั้นผิวน้อยลงไปจนถึงผิวขาดคอลลาเจน ซึ่งผิวของเราจะมีสัญญาณบ่งบอก ดังนี้

• ผิวหย่อนคล้อย ไม่ยกกระชับ และมีริ้วรอย
• รอยสิวหายช้า
• ผิวแห้ง หยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
• เริ่มมีถุงใต้ตา

5 พฤติกรรมทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว​

1. ติดทานหวาน– ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวาน น้ำอัดลม หรือทานอาหารที่มีรสชาติหวาน เพราะเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลส่วนเกิน จะทำให้เกิดกระบวนการไกลเคชันในร่างกาย ส่งผลให้คอลลาเจนที่อยู่ตามผิวเสื่อมสภาพลง ทำให้ใบหน้ามีริ้วรอยและดูแก่ก่อนวัย
2. สูบบุหรี่หรือรับควันบุหรี่มือสอง– นอกจากบุหรี่ที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดแล้ว ยังส่งผลต่อการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินในร่างกาย ซึ่งทั้งสองโปรตีนนี้จะทำให้ผิวของเราเสื่อมสภาพ ไม่เต่งตึงและหย่อนคล้อย
3. ออกแดดบ่อย– แดดร้อน ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวการในการทำลายคอลลาเจนในผิว เพราะรังสี UV จะเข้าไปทำลายเซลล์ดีเอ็นเอที่ทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนให้แก่ร่างกาย ทำให้ผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงและสลายตัวได้ง่ายดาย
4. ดื่มแอลกอฮอล์– เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในปริมาณมาก จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ ทำให้ผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น คอลลาเจนที่อยู่ในชั้นผิวจะสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
5. ความเครียด นอนน้อย– หากมีความเครียดและพักผ่อนน้อย ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งจะทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนังของเรา ส่งผลให้ผิวหนังไม่แข็งแรง สิวขึ้นง่าย และเสื่อมประสิทธิภาพในการผลิตคอลลาเจนในร่างกายอีกด้วย

เพิ่มคอลลาเจนอย่างไร ให้ผิวกระจ่างใสดูสุขภาพดี

​แม้ว่าเราจะสูญเสียคอลลาเจนจากอายุที่มากขึ้นและการใช้ชีวิตประจำวัน เราก็สามารถเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวได้เช่นกัน ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ – ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเครียด ช่วยให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนมากขึ้น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ร่างกายจึงผลิตคอลลาเจนได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้ออกซิเจนในร่างกายหมุนเวียนได้อย่างเต็มที่ ผิวพรรณได้รับออกซิเจนช่วยให้ผิวดูมีสุขภาพดี
• ทานอาหารเพิ่มคอลลาเจน – การรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินซีอย่างผักและผลไม้ เพราะว่าวิตามินซีมีส่วนช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเสื่อมสลายของคอลลาเจน
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ – เพราะผิวหนังของเราประกอบด้วยน้ำ 30% เพียงแค่ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน จะช่วยให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ ช่วยสร้างคอลลาเจนและช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ ให้ผิวสุขภาพดียิ่งขึ้น

ฟื้นฟูสภาพผิวด้วย PCL 21%

นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว การทำหัตถการปรับปรุงคุณภาพผิวด้วยกูริ PCL 21% ก็สามารถกระตุ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจนในร่างกายได้เช่นกัน เพราะกูริ คือ Biostimulator ที่เป็นของเหลว (Fully Liquid PCL) ทำให้มีคุณสมบัติกระจายตัวได้ดี จึงสามารถกระตุ้นให้เกิดกระบวนการ Inflammation ใต้ชั้นผิว จนเกิดการสร้างไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย ลดความหมองคล้ำ ฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดี ทำให้ผิวดูกระจ่างใส นอกจากนี้ยังลดโอกาสการเกิดการอุดตันของหลอดเลือด เพราะ PCL สามารถย่อยสลายได้เองในร่างกายมนุษย์

จะเห็นได้ว่ามีบางพฤติกรรมที่คอยทำร้ายผิวของเราอยู่เงียบ ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำลายคอลลาเจนและคอยเพิ่มหรือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกายของแต่ละคนด้วยวิธีต่าง ๆ ก็ช่วยทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปได้ แค่นี้ก็ผิวของเราก็จะค่อย ๆ แข็งแรงขึ้น เต่งตึง และดูสุขภาพดี แถมดูอ่อนเยาว์อีกด้วย