5 ข้อห้ามหลังฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน ดูแลใบหน้าอย่างไรให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
สิ่งที่หลายคนคาดหวังหลังฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) นอกจากจะอยากให้ผลลัพธ์ออกมาด้วยดีเป็นที่น่าพอใจแล้ว ก็คงอยากให้ผลลัพธ์คงสภาพอยู่ได้นาน ไม่มีปัญหาหรือผลข้างเคียงใด ๆ ตามมาในภายหลัง ซึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ก็คือการใส่ใจดูแลตัวเองหลังจากเข้ารับบริการ ดังนั้นหากใครที่เพิ่งฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน มา หรือกำลังจะไปฉีด ลองมาดูกันเลยว่า ข้อห้ามหลังฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน นั้นมีอะไรบ้าง เพื่อจะได้นำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัวหลังทำ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้ตัวยาสลายตัวไปเร็วกว่าปกติด้วย
1. ไม่ควรสัมผัสหรือนวดคลึงใบหน้า ในบริเวณที่ฉีดมา
ความรู้สึกตึง ๆ ตามบริเวณที่ฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน เป็นเรื่องปกติที่เกิดได้ แต่ถึงแม้จะรู้สึกไม่สบายผิวแค่ไหน ก็ไม่ควรที่จะไปสัมผัส นวดคลึงในบริเวณนั้นเด็ดขาด เพราะพฤติกรรมดังกล่าวอาจส่งผลให้ตัวยากระจายตัวหรือไหลไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่นที่ไม่ต้องการได้
2. หลีกเลี่ยงการนอนราบและการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ
ในช่วง 3-4ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน เป็นช่วงที่ตัวยากำลังซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อ จึงไม่ควรนอนราบหรือก้มหัวต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนไปยังบริเวณใบหน้ามากขึ้น ซึ่งมีผลต่อการกระจายตัวของตัวยา และอาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำได้ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน
3. หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน
ตัวยาของโบทูลินัม ท็อกซิน จะสลายตัวได้เร็วขึ้นหากเจอความร้อน ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ประสิทธิภาพของตัวยาเสื่อมสภาพไว หลังฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน จึงควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกรูปแบบ ทั้งการออกไปเจอแสงแดดจัด การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น การอบไอน้ำ ซาวน่า การทำหัตถการหรือทรีทเมนต์ที่ต้องใช้ความร้อน การยิงเลเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงการรับประทานอาหารประเภทหมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาหรือหม้อร้อน ๆ
4. งดรับประทานอาหารและยาบางชนิดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของโบทูลินัม ท็อกซิน
เนื่องจากอาหารและยาบางชนิด อาจไปขัดขวางการทำงานของตัวยาในโบทูลินัม ท็อกซิน หรืออาจจะส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดหยุดไหลช้า ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย รอยช้ำหายช้ากว่าปกติได้
- อาหารที่ควรงด ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อาหารที่มีรสเผ็ด อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง เป็นต้น
- ยาที่ควรงด ได้แก่ ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) จำพวกแอสไพริน (Aspirin) ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) นาพรอกเซน (Naproxen) รวมไปถึงอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอีอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose) สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Gingko) เป็นต้น
5. ไม่ควรสูบบุหรี่
ในบุหรี่มีสารนิโคติน ที่ส่งผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด ซึ่งจะทำให้ตัวยาของโบทูลินัม ท็อกซิน ไม่สามารถกระจายตัวได้ดีเท่าที่ควร ประสิทธิภาพในการทำงานของตัวยาลดลง อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนั้นถ้าใครที่ฉีดโบลดริ้วรอยมา แล้วไม่อยากให้ริ้วรอยเกิดไวขึ้น ควรงดการสูบบุหรี่ไปเลยได้ยิ่งดี
สำหรับระยะเวลาที่เหมาะสมในการปฏิบัติตามข้อห้ามหลังฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน จะอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ทางที่ดีควรหมั่นสังเกตอาการของตัวเองอยู่ตลอด และปรึกษาแพทย์ผู้ให้บริการทันที หากมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น
บทความอื่นๆที่ใกล้เคียง
สารบัญเนื้อหา
สิ่งที่หลายคนคาดหวังหลังฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) นอกจากจะอยากให้ผลลัพธ์ออกมาด้วยดีเป็นที่น่าพอใจแล้ว ก็คงอยากให้ผลลัพธ์คงสภาพอยู่ได้นาน ไม่มีปัญหาหรือผลข้างเคียงใด ๆ ตามมาในภายหลัง ซึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ก็คือการใส่ใจดูแลตัวเองหลังจากเข้ารับบริการ ดังนั้นหากใครที่เพิ่งฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน มา หรือกำลังจะไปฉีด ลองมาดูกันเลยว่า ข้อห้ามหลังฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน นั้นมีอะไรบ้าง เพื่อจะได้นำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัวหลังทำ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้ตัวยาสลายตัวไปเร็วกว่าปกติด้วย
1. ไม่ควรสัมผัสหรือนวดคลึงใบหน้า ในบริเวณที่ฉีดมา
ความรู้สึกตึง ๆ ตามบริเวณที่ฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน เป็นเรื่องปกติที่เกิดได้ แต่ถึงแม้จะรู้สึกไม่สบายผิวแค่ไหน ก็ไม่ควรที่จะไปสัมผัส นวดคลึงในบริเวณนั้นเด็ดขาด เพราะพฤติกรรมดังกล่าวอาจส่งผลให้ตัวยากระจายตัวหรือไหลไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่นที่ไม่ต้องการได้
2. หลีกเลี่ยงการนอนราบและการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ
ในช่วง 3-4ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน เป็นช่วงที่ตัวยากำลังซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อ จึงไม่ควรนอนราบหรือก้มหัวต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนไปยังบริเวณใบหน้ามากขึ้น ซึ่งมีผลต่อการกระจายตัวของตัวยา และอาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำได้ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน
3. หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน
ตัวยาของโบทูลินัม ท็อกซิน จะสลายตัวได้เร็วขึ้นหากเจอความร้อน ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ประสิทธิภาพของตัวยาเสื่อมสภาพไว หลังฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน จึงควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกรูปแบบ ทั้งการออกไปเจอแสงแดดจัด การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น การอบไอน้ำ ซาวน่า การทำหัตถการหรือทรีทเมนต์ที่ต้องใช้ความร้อน การยิงเลเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงการรับประทานอาหารประเภทหมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาหรือหม้อร้อน ๆ
4. งดรับประทานอาหารและยาบางชนิดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของโบทูลินัม ท็อกซิน
เนื่องจากอาหารและยาบางชนิด อาจไปขัดขวางการทำงานของตัวยาในโบทูลินัม ท็อกซิน หรืออาจจะส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดหยุดไหลช้า ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย รอยช้ำหายช้ากว่าปกติได้
- อาหารที่ควรงด ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อาหารที่มีรสเผ็ด อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง เป็นต้น
- ยาที่ควรงด ได้แก่ ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) จำพวกแอสไพริน (Aspirin) ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) นาพรอกเซน (Naproxen) รวมไปถึงอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอีอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose) สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Gingko) เป็นต้น
5. ไม่ควรสูบบุหรี่
ในบุหรี่มีสารนิโคติน ที่ส่งผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด ซึ่งจะทำให้ตัวยาของโบทูลินัม ท็อกซิน ไม่สามารถกระจายตัวได้ดีเท่าที่ควร ประสิทธิภาพในการทำงานของตัวยาลดลง อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนั้นถ้าใครที่ฉีดโบลดริ้วรอยมา แล้วไม่อยากให้ริ้วรอยเกิดไวขึ้น ควรงดการสูบบุหรี่ไปเลยได้ยิ่งดี
สำหรับระยะเวลาที่เหมาะสมในการปฏิบัติตามข้อห้ามหลังฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน จะอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ทางที่ดีควรหมั่นสังเกตอาการของตัวเองอยู่ตลอด และปรึกษาแพทย์ผู้ให้บริการทันที หากมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น